หากใครยังไม่รู้วันนี้ถือโอกาสบอกเลยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราเองมี Tik Tok หลัก ๆ อยู่ 2 accounts นั่นคือ Tik Tok ของ Geng Sittipong และ Tik Tok ของ Creative Talk เอง
โดย ณ วันนี้ (5 กันยายน 2020) Tik Tok ของ Geng Sittipong มียอด follower 36.4K และยอด like 422.9K ขณะที่ของ Creative Talk มียอด follower อยู่ที่ 69.8K และ ยอด like 1 ล้าน !! ซึ่งเบื้องหลังของ admin ผู้ดูแลคือ ถ้าเป็นของ Geng Sittipong ก็จะเป็นผมดูแลเอง แต่ถ้าเป็นของ Creative Talk จะมีน้อง ๆ มาช่วย ๆ กันทำ ช่วย ๆ กันคิด รวม ๆ แล้วมากกว่า 4หัว
ทีนี้หลังจากที่ได้ทดลองเล่น ทดลองทำ content แล้ว สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Tik Tok มีอะไรบ้าง วันนี้จะขออนุญาตมาเล่าให้ฟัง เผื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์
เริ่มกันเลย
1. วงการนี้สนุกมาาากกก creative สุด
คือเราต้องปรับ mindset กันใหม่ก่อนเลยว่า Tik Tok ไม่ได้มีแค่เต้น! (แม้ว่าคนเต้นจะเยอะจริง ๆ ก็ตาม) โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ นี้ที่ Tik Tok เองก็พยายามจะผลักดันให้มี content สาระมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการทำแคมเปญ #TikTokUni และ #TikTokแนะแนว เข้ามาอีก ก็ช่วยทำให้เกิดเนื้อหาที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
2. Content ส่วนมากเป็น entertainment จึงไม่แปลกที่จะติดงอมแงม เผลอแป๊บเดียวเวลาหายไปเป็นชั่วโมง
นอกจากคนมาเต้นให้ดู ก็มีคนเล่นกล คนแกล้งคนอื่น คนพาเที่ยว ทำอาหารให้ดู หรือ life hack ต่าง ๆ ดูแล้วเพลินมาก ซึ่งจะว่าดีก็ดีจะว่าเป็นข้อเสียก็ใช่ เพราะว่าเผลอแป๊บเดียวเวลาก็หายไปเยอะอีกแล้ว
3. แต่กระนั้นก็ถือเป็น “โอกาส” เพราะ content เชิงความรู้มีไม่มาก และที่มีจำนวนหนึ่งก็เป็น life coach ซะเยอะ
อย่างที่บอกไปว่า เนื้อหาใน Tik Tok ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาเชิง entertainment ถ้าเราเข้าไปด้วยเนื้อหาสาระ จริงอยู่ว่าอาจจะผิดแปลกไปซักนิด แต่เชื่อเถอะว่า ขณะที่คนกำลังดูอะไรสนุก ๆ มันก็ดีไม่ใช่น้อยถ้าเค้าจะได้รับความรู้ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว และจบภายใน 1 นาที ดังนั้น ตรงนี้คือโอกาส
4. ประชากรส่วนมากใน
Tik Tok จะเป็นคนรุ่นใหม่ อายุน้อย นักเรียน นักศึกษา และ location กว้างมาากก ไม่ได้เจาะกลุ่มอยู่ในหัวเมืองอย่างเดียวเท่านั้นหากเรามองว่า facebook จะเป็นคนมีอายุหน่อย มีความจริงจังสูงกว่าคนใน platform อื่น คนใน Tik Tok จะโฟกัสไปที่กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา และที่สำคัญคือค่อนข้างหลากหลายมาากกก
จากกลุ่มคนที่ติดตาม Tik Tok ของทั้งสอง account พบว่า ไม่ได้มีการเทไปทางเดียวกัน อย่างของผม gengsittipong จะมีประชากรชายมากกว่านิดหน่อย แต่ของ Creative Talk พบว่าเอนไปทางหญิงเยอะมาากกกก
5. แต่ถึงกระนั้นประชากรใน Tik Tok ก็ใช่ว่าจะชอบ entertain อย่างเดียว หลายคนติดตาม content ความรู้ หาแรงบันดาลใจ และมี attitude ที่ดีด้วย
ทีแรกที่ลองไปทำเนื้อหาสาระเข้าไปใน Tik Tok อย่างที่บอกว่าก็แอบรู้สึกแปลก ๆ แต่ก่อนหน้าเราก็มีเพื่อน ๆ ทำ content สาระเหมือนกัน เลยคิดว่าเอาวะน่าลอง.. ผลลัพท์ที่ได้คือ หลายคนชอบดูเนื้อหาสาระ และที่สำคัญคือมี attitude ที่ดีมาก ผมเองลองทำ content “Life in a day” ของตัวเองลงไปดู ปรากฎว่าคนมาตามดูเยอะมาก ทีแรกก็กังวลกลัวว่าเค้าจะคิดว่าเรามาอวดชีวิตแล้วมองว่าเป็น life coach รึเปล่า แต่ปรากฎว่าใน comment มีหลายคนบอกว่า “อยากจะทำอาชีพแบบนี้” บางคนบอกว่า “รู้ว่าเหนื่อยแต่รู้สึกเป็นแรงบันดาลใจ” บางคนอยากรู้ที่มาที่ไปว่าเราทำอะไรมาก่อน กลายเป็นว่ามุมมองของคนใน Tik Tok ค่อนข้างดีทีเดียว
6. การทำ short video สำหรับ Tik Tok นี่ถือว่าท้าทาย
เพราะด้วยความสั้น แต่ต้องกระชับ ข้อมูลครบ และต้องได้ attention จึงไม่ใช่อะไรง่าย ๆ แต่รวม ๆ แล้วสนุกดี จากเดิมที่ทำคลิป 4 นาที 5 นาที 7 นาที หรือทำ podcast ยาว 20นาที เจองานนี้โดนบีบให้จบที่ 1 นาที โอออวว ต้องพูดไวมาากกกก แต่สนุกมาก รู้สึกว่า content เราทำกระชับ ๆ ก็ได้นี่นา
7. ถ้าจะทำ content ให้ดี ง่ายที่สุดคือการทำบ่อย ๆ ทำประจำ มีการวัดผลสม่ำเสมอ ค้นหาว่า ทำไมคลิปนี้เวิร์ค แต่อีกอันไม่เวิร์ค..
ด้วยความที่เป็นพื้นที่ใหม่ กลุ่มคนใหม่ สิ่งที่ต้องทำเสมอคือการวัดผล และต้องทำสม่ำเสมอ ถามว่าวัดผลกันแบบจริงจังขนาดไหน จริง ๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสมาก แต่เราต้องมานั่งดูตลอดว่า ทำไมคลิปนี้มันวิ่ง คลิปนี้ไม่วิ่ง สุดท้ายพอเราเริ่มจะเดาทางได้ ก็สนุกขึ้น ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีสูตรตายตัว และเชื่อว่าแต่ละคนจะต้องค้นหาสูตรของตัวเอง
หากสังเกตดูจะพบว่า account ของ gengsittipong ผมมีเอื่อยไปบ้าง กราฟคน follower เลยจะนิ่ง ๆ ช่วงไหนที่ตั้งใจก็จะพุ่งขึ้นเลย ขณะที่ของ Creative Talk จะค่อนข้างสม่ำเสมอเพราะว่าทำอยู่ตลอด
8. แต่ดีที่สุดคือ พอให้น้อง ๆ ในออฟฟิศช่วยทำ โหหหโคตรปัง!
เหมือนเค้ารู้ธรรมชาติกันเอง.. เรานี่เหมือนคนมาจากต่างดาว.. แต่ก็สนุกที่ได้ไปเดินอยู่ในดาวดวงใหม่
ผมเองดูเฉพาะ Tik Tok ของตัวเองที่ Geng Sittipong แต่ให้น้อง ๆ ในออฟฟิศ ช่วยกันดู Tik Tok ของ Creative Talk ปรากฎว่าเผลอแป๊บเดียว Tik Tok ของ Creative Talk พุ่งปรี๊ดดดดด!! โอวววว สิ่งนี้ทำให้เรารู้ว่า แม้เราจะทำ content มานาน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้อย่างชำนาญ
9. 5คลิปแรกต้องได้!! อันนี้น้อง ๆ บอกมา ส่วนของเรา 5คลิปแรก ไม่ได้! 555 เลยทำให้หนืดไปหน่อย
น้อง ๆ ไม่รู้ไปรู้มาจากไหนว่า 5คลิปแรกต้องปัง แต่เค้าใช้เทคนิคนี้ในการทำให้เพจอื่น ๆ จึงทำให้เรากว่าจะรู้ก็ช้าไปเสียแล้ว เอาเป็นว่าถ้าใครอยากจะเริ่มทำ Tik Tok ก็แนะว่าให้ทำ 5 คลิปแรกให้ปังเน้อ
10. “หัวใจคือ content ต้องดี”
ไม่ใช่ว่าโพสแล้วจะปังเลย! บางคลิปกว่าจะวิ่งต้องรอ 2 วัน.. เพราะ content จะวิ่งหรือไม่วิ่ง ขึ้นอยู่กับว่าคนชอบดูมากน้อยขนาดไหน ถ้าชอบมากก็วิ่งมาก .เดี๋ยวนี้เลยไม่ค่อยสนว่าจะต้องโพสกี่โมงเหมือนโพส fb แต่จะโพสเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วถ้า content ดี เดี๋ยวมันวิ่งเอง
ธรรมชาติของ Tik Tok ไม่เหมือน platform อื่น ๆ ที่โพสจะปังเลย แม้ว่าเราจะดูแล้วว่าช่วง 2ทุ่มถึง 5ทุ่มคือคนดูเยอะ แต่ก็ใช่ว่าเราโพสเวลานั้นแล้ว content จะวิ่งฉิว หลาย ๆ content กว่าจะวิ่งก็ต้องรอไป 2วัน ทั้งนี้เหตุผลที่มันจะวิ่งหรือไม่นั้น เป็นเพราะ content ของเรามีคนดูมากน้อยเท่าไหร่ ดูจบไหม และแชร์ออกด้วยรึเปล่า
จากภาพจะเห็นว่า คนดูจะเข้ามาเยอะมากพิเศษเวลาหัวคำ่ถึงดึก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการโพสช่วงนั้นจะรุ่งพุ่งแรงซะเดียวนั้นเสมอไป
ปล. สรุป.. Tik Tok เหมือนเป็นพื้นที่ใหม่ที่น่าสนใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคลธรรมดา เป็นแบรนด์ หรือต้องการไปขายของ ส่วนตัวแนะว่าควรเข้าไปลองซักหน่อย .. สำหรับผมเองแม้ว่าตอนนี้เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่บ้าง ต้องเรียนรู้ต่อไปเรื่อย ๆๆๆๆๆ อยู่ดีครับ