6 สิ่งที่คุณจะได้เห็นในปี 2020

6 สิ่งที่คุณจะได้เห็นในปี 2020

สวัสดีปีใหม่ ปี 2020 ทุกคนครับ …

เมื่อเดินทางเข้าสู่ปีใหม่ 2020 เสมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เราจะต้องพูดคุยกันถึงเรื่องที่มองกันว่าจะเกิดขึ้นในปีใหม่นี้ เหมือนเป็นการพากันมองไปข้างหน้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม

ดังนั้นในปี 2020 นี้จะมีอะไรเกิดขึ้น วันนี้ขอพูดถึงในภาพรวม ๆ ในหลากหลายมิติ นะครับ

เรื่องที่ 1 คุณจะได้เห็นเศรษฐกิจเคลื่อนที่เหมือนรถไฟเหาะตีลังกา

หลายคนบอกว่าปี 2019 เผาหลอก ปี 2020 นี้เผาจริง แต่อีกไม่น้อยก็บอกว่าเศรษฐกิจยังไปได้ดี จากความคิดเห็นส่วนตัวและเพื่อน ๆ ที่ทำธุรกิจรอบตัวกลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีหน้าขาลงแน่นอน ถ้าเปรียบเทียบกับรถไฟเหาะก็เชื่อว่านี่เหมือนเรากำลังอยู่ในช่วงที่กำลังจะดิ่งลงจากจุดที่เสียวที่สุดของราง โดยทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจาก “ความรู้สึกที่สัมผัสได้” แต่จากการอ่านและการพูดคุยกับคนมากหน้าหลายตา จากหลากหลายอุตสาหกรรม

ผมเองมีโอกาสคุยกับเพื่อนที่เป็นนักลงทุน ผมบอกให้เขานิยามแค่ 1 คำสั้น ๆ เพื่อเป็นคำแนะนำสำหรับการทำธุรกิจในปีหน้า คำเดียวที่เขาพูดออกมาก็คือคำว่า..

“Play Safe”

เมื่อวันก่อนบังเอิญได้ไปอ่านบทความหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจไทย จากเว็บไซต์ THE STANDARD ลองเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ https://thestandard.co/thailand-economy-2019-2020/

เรื่องที่ 2 คุณจะได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของนักธุรกิจออนไลน์

มีคนถามว่า ถ้าเศรษฐกิจกำลังจะแย่ลงเช่นนี้แล้ว เราควรจะทำอย่างไร คำตอบที่คิดได้ไวไวคือ ถ้าคุณเป็นพนักงานประจำอยู่ ขอให้อยู่เช่นนั้นล่ะครับ เชื่อว่าปีหน้าจะมีหลายคนที่ออกจากการเป็นพนักงานประจำ ทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ แต่ที่แน่ ๆ คือจะมีคนที่ทำงานมากกว่า 1 บริษัทเป็นจำนวนมาก การทำธุรกิจออนไลน์คือสิ่งที่น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ง่ายที่สุด

เลือกง่ายที่สุด แต่ทำได้ง่ายที่สุดหรือไม่อันนี้น่าสนใจกว่า

ในปีหน้าเป็นปีที่สินค้าจากต่างประเทศจะไหลเข้าเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มจำนวนมากขึ้น ดังนั้นการขายของออนไลน์อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ง่ายที่สุดในการทำธุรกิจ เพราะเราไม่ได้แข่งขันเฉพาะกับคนในประเทศเท่านั้น (เฉพาะตัวเลขพ่อค้าแม่ค้าคนไทยบนแพลตฟอร์มอย่าง Lazada, Shopee, และ JD Central ก็มีมากกว่า 1ล้านรายแล้ว) แต่เรายังต้องต่อสู้กับพ่อค้าแม่ค้ามือโปรจากต่างประเทศ ที่มีแววว่าจะไหลเข้ามาเพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วย

จากตัวเลขของ lazada, shopee, JD Central แจ้งว่ามีสินค้าเพิ่มขึ้นในระบบจากเดิม 74ล้านชิ้น เป็น 174ล้านชิ้น แล้วสินค้าเหล่านี้มีที่มาจากไหนบ้าง? 77% มาจากผู้ขายต่างประเทศที่มีอยู่ 81,000 ราย ที่เหลือ 23% จากผู้ขายในประเทศ 1ล้านราย !!

นั่นหมายความว่า ผู้ขายในไทยที่มีจำนวนมาก แต่กลับมีสินค้าน้อยกว่าผู้ขายในต่างประเทศ จึงไม่แปลกใจถ้าหลายครั้งเราในฐานะผู้ซื้อจะซื้อของจากต่างประเทศที่มีราคาถูกกว่า เสมือนสั่งโดยตรงจากผู้ผลิตโดยไม่ผ่านคนกลางอย่างคนไทย เพราะโลกนี้ไร้ซึ่งพรหมแดนเรียบร้อยแล้ว แล้วในฐานะของผู้ขาย พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ล่ะ จะต้องปรับตัวอย่างไร?

ถ้าสนใจลองไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ผมได้จดมาจากงาน Priceza ecommerce Summit 2019 ที่จัดโดยบริษัท Priceza ได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10157658714485070&set=a.10150101656400070&type=3

เรื่องที่ 3 คุณจะได้เห็นผู้คนทำความเข้าใจ เรื่องของใจที่ต้องถึงใจ

เทรนด์หนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจทั้งในภาคธุรกิจและส่วนบุคคลคือการเข้าถึงใจคน เข้าใจคน รู้ว่าเขาคิดอย่างไร รู้ว่าต้องทำอย่างไรกับผู้คน ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นเพื่อนเรา เป็นแฟนเรา เป็นเจ้านายเรา เป็นลูกน้องเรา หรือแม้แต่เป็น “ตัวของเราเอง”

ในเชิงธุรกิจการเข้าใจมนุษย์ที่เป็นทีมงานคือสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนและพาธุรกิจให้ผ่านพ้นไปในช่วงที่กำลังจะวิกฤตนี้ได้ ในยุคที่คนต้องแข่งกันกับเครื่องจักร สมองของทีมงานคือความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้เกิดความแตกต่าง

ขณะที่ความสามารถในการเข้าใจลูกค้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ต้องยอมรับว่าด้วยเทคโนโลยีมากมาย ระบบ marketing automation หลายกระบวนท่า ทำให้ทุกวันนี้ลูกค้าถูกสปอยล์จากธุรกิจจำนวนมาก ดังนั้นหากเราไม่สามารถเข้าถึงใจลูกค้า ก็อาจจะพลาดโอกาสทางธุรกิจได้เช่นกัน

แต่ใจเราเองกลับสำคัญที่สุด ด้วยสื่อที่รวดเร็วและความกดดันต่าง ๆ จากรอบทิศทางที่พุ่งเข้ามาหาเราตลอดเวลาทำให้หลายคนตั้งตัวไม่ติด หนังสือเชิงจิตวิทยาที่ทำให้เราเข้าใจตัวเองเริ่มเป็นที่น่าสนใจมากขึ้น รายการ Podcast ด้านนี้ก็มีคนให้ความสนใจไม่น้อย เชื่อว่าถึงวันนี้เราคงต้องไม่เพียงแต่ดูแลร่างกายตัวเอง แต่เราต้องหันมาสนใจจิตใจเราเองด้วยเช่นกัน

เรื่องที่ 4 คุณจะได้เห็นการพูดถึงข้อมูลเป็นเรื่องพื้นฐาน

แน่นอนว่าเรื่อง Data เป็นเรื่องที่หลายคนพูดถึง และการทำธุรกิจเราจะพลาดเรื่องนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเวลาไหนของ Data

Alimenti Effetto Viagra

ไม่ว่าจะเป็นช่วงเก็บข้อมูล จัดการข้อมูล หรือวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งหมดมีส่วนสำคัญทั้งนั้น ทำอย่างไรถึงจะเก็บข้อมูลเข้ามาในระบบได้ ในขณะที่บางบริษัทมีข้อมูลมากมายแต่กลับอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย ทำอย่างไรถึงจะรวมข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ปีหน้าถ้าคุณยังไม่คิดแม้แต่จะ “เริ่ม” เก็บข้อมูลลูกค้า คุณกำลังพลาดรถไฟขบวนสุดท้ายแล้วอย่างแน่นอน

เรื่องที่ 5 คุณจะได้เห็นคนพูดเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นธรรมชาติ

อย่างที่เราทุกคนทราบกันดีกว่าปีนี้เป็นปีงดให้ถุงพลาสติกในหลายสถานที่ สิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่เทรนด์เท่ห์ ๆ เก๋ ๆ ทำแล้วคูลอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องจริงจังที่พวกเราทุกคนต้องตระหนัก เพราะสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องของปัจจุบัน แต่เป็นเรื่องของการมองเห็นอนาคตที่ไกลกว่าตัวเราเอง ไกลกว่าอายุขัยของเราเองด้วยซ้ำ

ทุกวันนี้สังคมไม่เพียงแต่จะพูดถึงแค่การ “งดใช้” หรือ “ควรใช้” อะไร แต่ยังพูดกันไปถึงสิ่งที่ควรทำ “หลังใช้” ด้วย เพราะการใช้ของที่ recycle ได้แต่หากถูกจัดเก็บได้ไม่ดีพอ ก็อาจจะไม่สามารถ recycle ได้จริงเลยก็เป็นได้

เรื่องที่ 6 คุณจะได้ยินเสียงและได้เห็นพลังของเยาวชน

หลังจากที่ Greta Thunberg ได้ออกมาแสดงพลังที่โดดเด่นเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม กับประโยคที่ผมชอบมากเป็นการส่วนตัวคือ

“The eyes of all future generations are upon you. And if you choose to fail us, I say – we will never forgive you.” อนาคตของพวกเราทุกคนขึ้นอยู่กับพวกคุณ ถ้าคุณทำมันล้มเหลว พวกเราจะไม่ให้อภัยคุณอย่างเด็ดขาด

UN Climate Summit, New York, 23 September 2019
ภาพจาก https://news.un.org/en/story/2019/09/1047112

นี่ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นเสียงที่ได้ยินจากเยาวชน จากคนที่กำลังจะเป็นอนาคต และกำลังจะอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปในอนาคต เสียงของเยาวชนกำลังจะดังมากขึ้นในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม การเมือง การศึกษา การอยู่อาศัย และอื่น ๆ อีกมากมาย

เราจะสังเกตเห็นการยกย่องจากคนทั่วโลกเมื่อเสียงของคนรุ่นใหม่กลายเป็นพลังที่มอบให้โดยผู้ใหญ่ที่มองเห็นอนาคต

ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อย แค่ 34ปี ของประเทศฟินแลนด์ Sanna Mirella Marin หรือ สส.หญิง Alexandria Ocasio-Cortez (อเล็กซานเดรีย โอกาซิโอ-กอร์เตส) ที่อายุน้อยที่สุดในคองเกรส ตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการเมืองสหรัฐฯ

ดังนั้นสิ่งที่ควรตระหนักคือ เราในฐานะผู้ใหญ่ที่มีพลังอำนาจ ผู้ทำธุรกิจที่มีผลต่อพวกเขาต่อไปในอนาคต เราจะฝากอะไรไว้ให้กับคนรุ่นหลังเหล่านี้บ้าง

ผมคิดว่าเทรนด์ในปีนี้เป็นสิ่งที่ท้าายยิ่ง ไหนจะเรื่องเศรษฐกิจที่มีผลกระทบกับตัวเราโดยตรง และไหนจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม จิตวิทยา ที่มีผลกระทบกับเราทางอ้อม ในฐานะคนทำธุรกิจ เจ้าของแบรนด์ เราควรปรับตัวต่อเรื่องนี้อย่างไร และจะทำอย่างไรถึงจะสามารถอยู่รอดและดำเนินธุรกิจไปได้อย่างราบรื่น ไม่ใช่เพื่อปี 2020 เท่านั้น แต่กลับต้องมองไกลไปถึงอนาคตที่ไกลกว่าตัวเราเองเสียด้วยซ้ำ

Up Next:

ชวน CEO ตรวจสุขภาพธุรกิจด้วย 3 คำถาม

ชวน CEO ตรวจสุขภาพธุรกิจด้วย 3 คำถาม