JOB HUGGING จะว่าเป็นเทรนด์ก็ไม่แน่ใจ หรือเป็นภาคบังคับที่เกิดจากเศรษฐกิจในช่วงนี้กันแน่?
บทความไม่นานนี้จาก WSJ บอกว่า จากเดิมเมื่อหลายปีที่แล้ว เทรนด์ Job Hopping หรือการเปลี่ยนงานไปมาเพื่อหางานใหม่ เงินเดือนที่สูงขึ้นเป็นเทรนด์ที่พนักงานมักทำกัน แต่ในปีนี้กลับเปลี่ยนไป
Job Hugging หรือการกอดงานเดิมไว้ให้แน่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมากในปีนี้..
ด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมือง การเงิน ทำให้คนจำนวนมากไม่อยากย้ายงาน
“แม้ว่าจะเบื่อกับงานที่ทำอยู่ก็ตาม”
คือพูดง่าย ๆ ว่า แม้จะเบื่อก็ต้องทน ไม่ชอบก็ต้องทำ เพราะนาทีนี้เสี่ยงไม่ได้
ผลลัพธ์ที่กระทบต่อมา WSJ บอกว่า ผู้จัดการหรือหัวหน้าบางคนก็หนักใจ เพราะเดิมอาจจะพอคาดหวังได้ว่า พนักงานที่หมดไฟ หรือไม่ทุ่มเทกับงาน เบื่องาน อาจจะลาออกไปเอง แต่รอบนี้ก็อาจจะยากหน่อย องค์กรอาจจะมีพนักงานที่ “ทนทำ ทนอยู่” จำนวนไม่น้อย (The shift poses a challenge for managers, who can typically count on many disengaged workers to leave voluntarily)
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ผิด
เพราะล่าสุดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรหรือ Non Farm Payroll (NFP) ออกมาบอกว่าตัวเลขลดลงต่ำจากรอบที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าการจ้างงานชะลอตัวลง
จึงไม่แปลกที่จะต้องกอดงานไว้..
พนักงานเก่าก็มีสิทธิ์จะโดน AI มาแทนที่ แถมยังมีพนักงานจบใหม่ทันโลก รอจ่อสมัครงานอยู่เพียบ
แต่อยากพามาดูอีกนิด..
เพราะความน่าสนใจของตัวเลข NFP ไม่ได้บอกแค่ว่าการจ้างงานชะลอตัวลง “ทั้งหมด” แต่เฉพาะ “บางตำแหน่งงาน บางอาชีพ”
อุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นก็อย่างเช่น
กลุ่ม Health Care เป็นภาคส่วนที่โดดเด่นที่สุด มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นถึง 31,000 ตำแหน่ง แม้ว่าจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนของปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มบริการด้านสุขภาพแบบผู้ป่วยนอก (ambulatory health care), สถานพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย (nursing and residential care facilities), และโรงพยาบาล
ส่วนอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลงก็เช่น..
ภาคบริการวิชาชีพและธุรกิจ (Professional and Business Services): เป็นหนึ่งในกลุ่มงาน “White Collar” ที่มีการจ้างงานลดลง 17,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของบริษัทที่ปรึกษา, งานด้านไอที, และการบริการด้านต่างๆ
อีกอุตสาหกรรมก็คือ ภาคการผลิต (Manufacturing): มีการจ้างงานลดลง 12,000 ตำแหน่ง และเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งน่ากังวลมาก
กลับมาที่ JOB HUGGING
ผมว่านี่คือเรื่องที่น่าสนใจ เพราะอาจจะไม่ได้เป็น “เทรนด์ชั่วคราว” แต่อาจจะยาวนานกว่าที่คิด จนกว่าการปรับตัวในช่วงนี้จะลงตัว จนกว่าเราจะบริหารได้ว่าการทำงานของ AI กับคน จะทำร่วมกันได้อย่างไร จนกว่าเราจะบริหารเศรษฐกิจและธุรกิจในช่วงนี้ให้เห็นผลชัดเจนได้อย่างไร
เมื่อนั้นผมว่า JOB HUGGING น่าจะค่อย ๆ ลดลง
ส่วนตัวมองว่า JOB HUGGING อาจจะไม่ใช่อะไรที่ healthy ถ้าพนักงานต้องทนกับงาน และ หัวหน้าต้องทนกับพนักงานที่หมดไฟ
ดังนั้น ถ้าบริษัทไหนมีพนักงานดี ก็ “กอดพนักงานไว้” ด้วยก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นโชคดีของคุณ
ส่วนพนักงานคนไหนมีบริษัทดี ๆ อยู่ มีหัวหน้าน่ารัก ก็ “กอดเค้าไว้” ผมว่าก็จะ happy ทั้งสองฝ่าย 😀
